เลือกเตาประกอบอาหารอย่างไรให้ถูกใจ ใช้ดี

เลือกเตาประกอบอาหารอย่างไรให้ถูกใจ ใช้ดี

หัวใจหลักของการปรุงอาหารทุกเมนูทุกมื้อให้อร่อยดังใจ คงจะปราศจากเตาประกอบอาหารไม่ได้ โดยการเลือกเตาประกอบอาหารนั้นพิจารณาได้จากหลากหลายปัจจัย อาทิ เรื่องของประเภทเตา ที่มีทั้งเตาแก๊ส เตาเซรามิค และเตาแม่เหล็กไฟฟ้า รวมถึงเรื่องของขนาด ซึ่งโดยปกตินั้นมีขนาดทั่วไปอยู่ที่ 30 เซนติเมตร สำหรับหัวเดียวหรือสองหัว จนถึงขนาด 60 เซนติเมตร สำหรับ 4 หัว ดังนั้นจึงต้องพิจารณาจากการใช้งานว่าแต่ละวันเราทำอาหารบ่อยหรือไม่ พื้นที่ในครัวเหมาะกับเตาลักษณะใด เช่น ถ้าเลือกเตาแก๊สจะเหมาะกับการทำอาหารแบบไทยๆ มากกว่าเตาไฟฟ้า แต่ก็จะต้องมีพื้นที่สำหรับเก็บถังแก๊สขนาดใหญ่เตรียมไว้ด้วย เป็นต้น มาดูเทคนิคดีๆ ในการเลือกประกอบเตาอาหารให้เหมาะกับครัวของเรากันเลย

1. เตาแก๊ส (GAS HOB)

เตาแก๊ส เป็นเตาที่เหมาะกับการปรุงอาหารแบบเอเชียที่เน้นการผัด ทอด ตุ๋น หรือซุปต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องมีฟังก์ชันที่สามารถปรับความร้อนให้น้อยลงหรือแรงขึ้นได้ ในบรรดาเตาประกอบอาหารประเภทต่างๆ นั้นเตาแก๊สมีราคาค่อนข้างถูก ทนทานต่อการใช้งาน ประหยัด และให้พลังงานสูง โดยข้อคำนึงในการเลือกใช้เตาแก๊สมีดังนี้

  • ความสามารถในการทำความร้อน โดยส่วนใหญ่ความร้อนจะเริ่มต้นที่ 1,000 วัตต์ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเคี่ยวอาหารนานๆ แต่ถ้าจะประกอบอาหารที่ต้องการใช้กำลังไฟมากๆ อย่างการต้มหรือการผัด ต้องเลือกเตาแก๊สที่มีกำลังไฟสูง ซึ่งปัจจุบันกำลังไฟต่อ 1 หัวที่ทำความร้อนได้สูงสุดจะอยู่ที่ 5,000 วัตต์ จึงสามารถประกอบอาหารได้ทุกประเภท
  • ระบบความปลอดภัยในการตัดแก๊ส คือระบบการตัดการปล่อยแก๊สอัตโนมัติทันทีเมื่อเปลวไฟบนหัวเตาดับลง ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งระบบเซฟตี้วาล์ว ระบบเซฟตี้เทอร์โมคัพเพิล และระบบเซฟตี้คัทอ๊อฟ ผู้ใช้งานควรเลือกซื้อเตาแก๊สที่มีระบบการตัดแก๊สอัตโนมัติ เพื่อให้เกิดความมั่นใจได้ว่า ผู้อยู่อาศัยและทรัพย์สินจะไม่ได้รับอันตรายจากเหตุอัคคีภัยที่มีต้นเหตุมาจากเตาแก๊ส
  • วัสดุที่ใช้ในการผลิต วัสดุที่มีความคงทนมากที่สุดคือสแตนเลส แต่ถ้าเน้นเรื่องของความสวยงามแนะนำเป็นกระจกหรือฐานเตาเซรามิค ซึ่งมีข้อดีคือสามารถทำความสะอาดได้ง่ายและทนต่อความร้อนได้ค่อนข้างมาก
  • หัวเตา ปัจจุบันวัสดุหัวเตาที่ดีที่สุดคือทองเหลือง เนื่องจากทองเหลืองเป็นตัวนำความร้อนที่ดี ทนความร้อนสูง มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และไม่เป็นสนิม

2. เตาแม่เหล็กไฟฟ้า (INDUCTION HOB)

เตาประกอบอาหารประเภทนี้มีข้อดีคือดูแลรักษาง่าย เพราะผิวหน้าของเตาปล่อยความร้อนออกมาด้วยพลังแม่เหล็กไฟฟ้า โดยอาศัยหลักการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็กระหว่างเตาแม่เหล็กไฟฟ้าและภาชนะที่เหนี่ยวนำไฟฟ้า เช่น เหล็กหรือสแตนเลสบางชนิด เพื่อส่งต่อความร้อนไปยังภาชนะหรืออุปกรณ์ต่างๆ โดยตรง แต่ถ้าหากภาชนะที่นำมาใช้ไม่มีคุณสมบัติในการเหนี่ยวนำแม่เหล็กก็จะไม่สามารถทำให้เกิดความร้อนได้ เช่น อะลูมิเนียม แก้ว เซรามิค ข้อดีอีกประการหนึ่งของการใช้เตาแม่เหล็กไฟฟ้าคือจะไม่มีคราบติดพื้นผิวผนัง แตกต่างจากเตาแก๊ส

3. เตาเซรามิคไฟฟ้า (CERAMIC HOB)

เตาประเภทนี้คล้ายคลึงกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า แต่มีลักษณะและวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน โดยเตาเซรามิคไฟฟ้ามีหน้าเตาเป็นกระจกเซรามิค ซึ่งมีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดี (ประมาณ 600 ํC) และรับแรงกระแทกได้ค่อนข้างมาก แต่มีราคาสูงกว่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้า ส่วนตัวทำความร้อนด้านในเป็นขดลวดไฟฟ้า หลอดอินฟาเรดหรือหลอดฮาโลเจน นอกจากนั้น ในขณะใช้งานเตาเซรามิคไฟฟ้า จะมีสีแดงขึ้นในบริเวณที่มีความร้อน แต่เตาแม่เหล็กไฟฟ้าจะไม่มีสีแดงเกิดขึ้น

ข้อสังเกตก่อนเลือกซื้อเตาไฟฟ้า

ก่อนการเลือกซื้อเตาแก๊ส เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือเตาเซรามิคไฟฟ้า ผู้ใช้ควรพิจารณาข้อสังเกตต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ ดังนี้
  1. พิจารณาถึงมาตรฐาน ความปลอดภัย และคุณภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจดูจากผู้ผลิตที่มีรางวัลการันตีหรือเลือกผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญในอุปกรณ์เครื่องใช้นั้นๆ โดยเฉพาะ ซึ่งช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าได้ อีกทั้งต้องมองหาเครื่องหมายรับรองด้านความปลอดภัยบนผลิตภัณฑ์ด้วย
  2. วัสดุที่นำมาผลิตต้องมีความแข็งแรงทนทาน ทำด้วยวัสดุที่มีคุณภาพดี และทนความร้อนได้ดี
  3. เตาไฟฟ้าที่เลือกซื้อมาประกอบอาหารนั้น ควรมีระบบการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าช็อตที่อาจจะเกิดขึ้นจากตัวทำความร้อนหรือกรณีไฟรั่วอื่นๆ
  4. บริเวณขั้วต่อสายและขั้วต่อของตัวทำความร้อน ต้องทำด้วยวัสดุทนความร้อนโดยเฉพาะ เพื่อให้ทนทานต่อการกัดกร่อนและไม่ละลายจากการโดนความร้อนนานๆ หรือควรผ่านกรรมวิธีป้องกันการเกิดสนิม เพื่อยืดอายุการใช้งานและเป็นการเพิ่มระดับความปลอดภัย
  5. อ่านข้อแนะนำ คำเตือน ข้อควรระวัง ตลอดจนสังเกตตัวอักษรหรือเครื่องหมายต่างๆ ที่ระบุกำลังไฟฟ้าที่กำหนดเป็นวัตต์ แรงดันไฟฟ้าที่กำหนดเป็นโวลต์ ชื่อผู้ผลิต เครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียน รวมทั้งรายละเอียดที่สำคัญอื่นๆ ให้ครบถ้วนก่อนการใช้งาน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้ที่ใช้งานเอง

เฮเฟเล่ จำหน่ายเตาประกอบอาหารหลากหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น • เตาแก๊ส • เตาไฟฟ้า • เตาอบไฟฟ้า • เตาย่าง และอุปกรณ์ในห้องครัว ขอคำแนะนำ ปรึกษาก่อนเลือกซื้อเตาประกอบอาหารที่เหมาะกับครัวคุณที่สุดได้ที่ Hafele Design Studio ทุกสาขา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-741-7171

บทความที่เกี่ยวข้อง